ชุมชนบ้านบาตรเป็นชุมชนที่อยู่กลางกรุงเทพมหานคร โดยชุมชนบ้านบาตรอยู่ในพื้นที่แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
เรามาทราบประวัติของชุมชนบ้านบาตรกันก่อนดีกว่าค่ะ บ้านบาตรเป็นหมู่บ้านหัตถกรรมเก่าแก่ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์
ชาวบ้านบาตรเดิมเป็น ชาวกรุงศรีอยุธยาภายหลังเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าครั้งที่2 ในปี พ.ศ. 2310 แล้ว
ชาวบ้านบาตรก็ต้องอพยพหลบหนี เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
(รัชกาลที่1) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนากรุงเทพฯเป็นราชธานี
ชาวบ้านบาตรจึงมาสร้างบ้านเรือนอยู่บริเวณที่เป็นชุมชนอยู่ในปัจจุบันนี้ ส่วนอีกกระแสหนึ่งก็ว่า เดิมนั้นชาวบ้านบาตรเป็นชาวเขมรที่ถูกกวาดต้อนมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มาอยู่อาศัยบริเวณเกาะเขมร
ซึ่งเป็นบริเวณกักกันชาวเขมร รัชกาลที่3 ทรงเห็นว่า ชาวเขมรมีฝีมือในการทำบาตรจึงให้การสนับสนุน ในสมัยก่อนการทำบาตรที่นี่ถือว่าเป็นการทำบาตรด้วยมือแห่งเดียวในประเทศไทยก็ว่าได้
เพราะชาวบ้านเกือบทั้งหมู่บ้านยึดอาชีพการทำบาตรเป็นอาชีพหลัก ชาวบ้านจะนำบาตรที่ผลิตได้ไปส่งขายที่สำเพ็งและย่านเสาชิงช้า
ขายได้ใบละไม่ถึงบาท การทำบาตรของชาวบ้านมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ จนกระทั่งสามารถส่งไปขายยังจังหวัดต่างๆ
และประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง การรวมกลุ่มของชาวบ้านบาตร
นอกจากความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นญาติพี่น้องกัน สภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ก็เป็นตัวกำหนดให้ชาวบ้านต้องอยู่ในกลุ่มของตน
ด้วยมีพื้นที่จำกัด ไม่สามารถขยายพื้นที่ออกไปได้อีก บรรพบุรุษของชาวบ้านจึงมักจะถ่ายทอดวิชาความรู้ในการทำบาตรให้ลูกหลาน การถ่ายทอดวิชาความรู้จากคนรุ่นหนึ่งไปสู่รุ่นหนึ่งให้ได้วิชาความรู้นั้นในการประกอบอาชีพกันต่อๆไปถือเป็นขนบธรรมเนียมไทยอย่างหนึ่งที่มีมาช้านาน
![]() |
| บาตรพระที่เสร็จสมบูรณ์ ศิลปะบนบาตรพระ |
ขอบอกก่อนเลยว่าถ้าเป็นสมัยก่อนนั้นเข้าไปในชุมชนนี้เราจะได้ยินเสียงตีเหล็กดังสนั่นซอยเลยทีเดียวแต่เนื่องด้วยปัจจุบันนี้มีผู้ที่ยังคงประกอบอาชีพทำบาตรพระเหลือเพียง 5 ครอบครัวเท่านั้น เรียกได้ว่าเข้าขั้นวิกฤตของวงการการทำบาตรพระของชุมชนนี้ก็ว่าได้นะคะ ในการทำบาตรพระของชุมชนบ้านบาตรจะทำด้วยมือทุกชิ้นมีความประณีตบรรจง และจุดเด่นของบาตรพระของชุมชนบ้านบาตร ก็คือเสียงของบาตร ทุกคนคงสงสัยแล้วใช่ไหมคะว่าเสียงบาตรจะเป็นจุดเด่นที่สามารถบอกได้เลยหรือว่านี่คือบาตรของชุมชนบ้านบาตร เสียงบาตรพระของที่นี่นะคะเมื่อใช้ไม้ตีจะมีเสียงดังกังวานเหมือนระฆังเชียวล่ะค่ะ แต่เป็นที่น่าเสียดายคือปัจจุบันมีการทำบาตรปั้มในรูปแบบอุตสาหกรรมเกิดขึ้นทำให้ศิลปะของการทำบาตรพระอาจถูกมองข้ามไปอีกอย่างหนึ่งวิถีชีวิตการทำบาตรเริ่มหมดไปเนื่องจากขาดผู้สืบทอด นอกจากนี้ชุมชนบ้านบาตรยังมีศิลปวัฒนธรรมที่ไม่มีใครทราบมาก่อนนั่นคือ รำวงบ้านบาตร ที่มีมานานหลายช่วงอายุคนแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
และเพื่อเป็นการสนับสนุนและอนุรักษ์วัฒนธรรมของชุมชนบ้านบาตรจึงเกิดเป็นโครงการ1วันเรียนรู้บ้านบาตร โครงการนี้เป็นโครงการที่ทำขึ้นเพื่อการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมของชุมชนทั้งการทำบาตรพระและรำวงบ้านบาตรเพื่อไม่ให้สูญหายไปจากประเทศไทยโดยการพาน้องชนรุ่นหลังนั่นคือน้องๆนักเรียนชั้นประถามศึกษาจากโรงเรียนอนุบาลวัดปรินายก โรงเรียนในละแวกนั้นไปเรียนรู้วัฒนธรรมของทางชุมชนบ้านบาตร เหตุผลที่เลือกทำกิจกรรมกับน้องๆชั้นประถมศึกษาเพราะว่า เล็งเห็นว่าวัฒนธรรมต่างๆของไทยที่กำลังจะสูญหายไปทุกวัฒนธรรมควรที่จะมีการสานต่อโดยการเผยแพร่ไปสู่ชนรุ่นหลังเพื่อเป็นการไม่ให้วัฒนธรรมเก่าแก่นั้นหายไป และเล็งเห็นว่าการที่ชวนน้องๆมาเข้าร่วมโครงการก็เป็นการเพิ่มความรู้นอกห้องให้กับน้องๆได้นำไปใช้และเป็นประสบการณ์ จากการที่ทำโครงการ1วันเรียนรู้ชุมชนบ้านบาตร
โครงการเป็นที่สนใจของทั้งทางชุมชน
โรงเรียน แฟนเพจของเพจ "ท่อง-เที่ยว-ทั่ว-ไทย" และนอกจากนี้ในวันที่ไปทำกิจกรรมก็มีพี่ๆจากนิตยสารรักลูก
มาถ่ายภาพการทำกิจกรรมของเรา
ซึ่งก็ทำให้เราได้รู้ว่าโครงการของเรานั้นเป็นที่สนใจไม่ใช่น้อยและในการทำกิจกรรมนี้น้องๆที่เข้าร่วมก็ได้ความรู้กลับไป
ภาพการทำกิจกรรม
![]() |
| น้องๆบอกสู้ตาย |
![]() |
| น้องๆที่ร่วมโครงการ จากโรงเรียนอนุบาลวัดปรินายก |
![]() |
| น้องๆฟังป้ากฤษณากันอย่างตั้งใจ |
วีดีโอที่จัดทำขึ้น
ขอฝากชุมชนบ้านบาตรไว้ด้วยนะคะ ถ้าใครสนใจอยากจะเรียนรู้การทำบาตรพระหรือรำวงบ้านบาตรก็สามารถเข้าไปได้ที่ชุมชนบ้านบาตรเลยค่ะ ชุมชนบ้านบาตรเป็นชุมชนเปิดที่พร้อมให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวทุกคนค่ะ






ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น